สวัสดีค่ะ วันนี้เราสองสาวเพื่อนซี้ (แต่ขอไม่เอ่ยชื่อนะคะ เขิน) จะพาทุกหท่านไปตะลุยเกาะรอกลอยกันค่ะ ได้ยินชื่อเสียงด้านความสวยงามของเกาะแห่งนี้มาก็นาน แต่ก็ไม่เคยได้มีโอกาสมาสักที เขาว่ากันว่า เกาะแห่งนี้มีหาดทรายสีขาวสวยตัดกับน้ำทะเลสีเขียวมรกตที่ใสสะอาด ถึงขนาดได้ชื่อว่า “ทะเลหยก” กันเลยทีเดียว เห็นแบบนี้แล้ว พอมีโอกาส เราเพื่อนซี้สาวสวยทั้ง 2 คน ฮ่าๆๆ ก็เลยจะมาให้เห็นกับตา จะเป็นอย่างไร ไปดูกันเลยค่ะ
หลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้จักหรือไม่เคยได้ยินชื่อเกาะแห่งนี้ใช่ไหมคะ เกาะแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้ๆกับเกาะราวีและเกาะดงค่ะ ซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตาค่ะ ก่อนจะไปที่เกาะรอกลอย เราต้องเดินทางไปที่เกาะหินงามกันก่อนค่ะ เพื่อนั่งเรือหางยาวต่อไปยังเกาะรอกลอย โดยใช้เวลา 20 นาทีเท่านั้นค่ะ ถือว่านั่งชมวิวรับลมเย็นๆ เดี๋ยวเดียวก็ถึงแล้วค่ะ
ในที่สุดก็มาถึงเกาะรอกลอยกันแล้วค่ะ เรามีเวลาอยู่ที่นี่กันประมาณ 1 วันเท่านั้น ก่อนที่จะกลับเข้าตัวเมืองในช่วงเย็นค่ะ เพราะเราสองคนจองที่พักไว้ในตัวเมืองนั่นเอง เรียกได้ว่าโอกาสดีๆมาถึงแล้ว ก็ไปเล่นน้ำทะเล ถ่ายรูปรับบรรยากาศดีๆ กันเลยค่ะ
บรรยากาศชิลมากเลยค่ะ สดชื่นทั้งวัน แม้แดดประเทศไทยจะแรงแค่ไหนก็ไม่หวั่นค่ะ เราต้องได้รูปสวยๆ กลับไปอวดเพื่อนๆ แน่นอน!
เห็นไหมคะว่าทะเลสวยแค่ไหน คนก็สวยไม่แพ้กันเลยค่ะ ฮ่าๆ พูดแล้วก็เขินเอง หลังจากได้รูปสวยๆ ถูกใจๆ กันไปแล้ว ก็ได้เวลาเติมพลังค่ะ และอาหารจานเด็ดที่ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ต้องมี และเข้ากันมากๆ กับบรยากาศแบบนี้ นั่นก็คือ “ส้มตำ” นี่แหละค่า ต้องขอบอกว่าส้มตำที่นี่ แซ่บ รสชาติอร่อยถูกปากคนไทยแน่นอน
หลังจากได้ทานของอร่อยๆ ไปแล้ว เราก็นั่งชิลต่อถึงเย็นพอดี ก็ได้เวลานั่งเรือกลับเข้าตัวเมืองแล้วค่ะ ก่อนจะจากที่นี่ไป เราสองคนเลยนำภาพบรรยากาศตอนพระอาทิตย์ตกที่สวยสุดๆ ไปเลย มาฝากทุกคนกันค่ะ
พอกลับเข้าถึงฝั่ง เราสองสาวโสด ก็อยากหาอะไรพิเศษๆ มาดื่มเพื่อฉลองที่เราได้มาเที่ยวที่นี่กันค่ะ แล้วก็ถึงกับร้องกรี๊ดเลยค่ะ เพราะเพื่อนสุดเลิฟดันเอาเบียร์ตัวใหม่สุดน่ารัก Snowy Weizen ตัวนี้มาเซอร์ไพรส์ ที่ถึงกับจะร้องกรี๊ดไม่ใช่อะไรนะคะ แต่เพราะมันหายากมากๆ ยิ่งพอได้ลองชิมแล้วยิ่งติดใจเลยค่ะ จะต้องหามาดื่มอีกให้ได้แน่นอน
จบกันไปแล้วนะคะ สำหรับรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวของเราสองคน ใครสนใจจะไปสัมผัสกับบรรยากาศดีๆ ของที่นี่ก็ไปได้เลยนะคะรับรองว่าคุ้มค่าแน่นนอนค่ะ